เรียนพระคัมภีร์กับพี่ซัน

คริสเตียนศัลยกรรมได้ไหม?

2017-01-07

คริสเตียนศัลยกรรมได้ไหม?

ทำจมูก ตาสองชั้น เหลาคาง ทำหน้าอก ได้รึเปล่า?
โมได้แค่ไหน?
พระคัมภีร์มองเรื่องการศัลยกรรมยังไง?

อยากรู้เลื่อนนิ้วเลย

Highlights

- ทำไมบางคนถึงมองว่าศัลยกรรมเป็นความบาป?
- ผู้หญิงจ่ายเงินค่าเครื่องสำอางในแต่ละปี มากกว่าค่าใช้จ่ายในการศัลยกรรมบางประเภทเสียอีก

- มีน้องถามพี่ซันเข้ามาเยอะมากว่า…
การ “ศัลยกรรม” ผิดพระคัมภีร์ไหม?

- นี่เป็นหนึ่งในประเด็นที่คริสตจักรมักไม่กล้าพูดถึง และทิ้งไว้ให้ผู้เชื่อคิดเอาเอง ถ้างั้นลองมาดูความเห็นจากพี่ซันกันดูครับ

- บอกก่อน เวลาพี่ซันพูดถึงการศัลยกรรมเนี่ย กำลังหมายถึงการศัลยกรรมทั้ง 2 แบบนี้

1. ศัลยกรรมเพื่อเสริมสร้าง (Reconstructive Plastic Surgery)
= การผ่าตัดเพื่อแก้ไขความผิดปกติจากความพิการหรืออุบัติเหตุ เช่น รักษาปากแหว่ง เพดานโหว่, แผลไฟไหม้

2. ศัลยกรรมเพื่อเสริมสวย (Cosmetic Plastic Surgery)
= การผ่าตัดเพื่อความสวยงาม เช่น ทำจมูก, ทำตา 2 ชั้น, เหลาคาง ที่เค้าเรียกกันว่า “โมหน้า” ทั้งหลาย

- ความยากของประเด็นนี้ก็คือ “ไม่มี” พระคัมภีร์ข้อไหนห้ามเรื่องการเสริมความงามเลย #แม้แต่ข้อเดียว ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นประเด็น “สีเทา” ที่มีทั้งคนที่มองว่าถูกและผิด

- แต่ก็มีบางความเห็นเชื่อว่า “ศัลยกรรม = ความบาป” กันเลยทีเดียว (มองเป็นสีดำ) เราจะลองมาวิเคราะห์ในแต่ละประเด็นกันครับ
.
.
.

1. ร่างกายเป็นพระวิหาร (1 คร. 6:19)

- การจะบอกว่าพระวิหารห้ามตกแต่งด้วยการศัลยกรรม เป็นการใช้พระคัมภีร์ที่ไม่ตรงกับบริบท (Context) ชัดเจนว่าเปาโลไม่ได้ต้องการพูดเรื่องการเสริมสวยหรือการศัลยกรรม (อ่านเพิ่มเติมดูในคอมเม้น)

2. ธรรมชาติที่พระเจ้าสร้างเรามาดีที่สุด (ปฐก 1:31)

- แน่นอนส่วนตัวพี่ซันเห็นด้วยเรื่องที่พระเจ้าสร้างเรามาดี (ในสายตาพระเจ้า) แต่มันเป็นคนละเรื่อง กับการทำให้ตัวเองดูดีกว่าเดิม (ในสายตามนุษย์)
เพราะมนุษย์มีค่านิยมคนละแบบกับพระเจ้า

- ดังนั้น คนที่เกิดมาปากแหว่ง แล้วถูกห้ามรักษาเพื่อให้มันดูดีกว่าเดิม ประเด็นนี้จึงไม่ควรเป็นเหตุผลที่ “ไม่ให้” คนๆหนึ่ง “ดูแลตัวเองให้ดูดี”

- ไม่งั้นก็ต้องห้ามแต่งหน้า หน้าสดๆกันไปเลย (พระเจ้าสร้างเรามาหน้าสด) ห้ามย้อมสีผมด้วยเลยละกัน เพราะมันตรรกะเดียวกัน

3. การอยากได้รับการยอมรับจากมนุษย์ = บาป

- พี่ซันมองว่านี่เป็นความคิดที่สุดโต่งจนน่ากลัว แน่นอนว่า เราไม่ได้อยู่เพื่อแสวงหาการยอมรับจากมนุษย์

- แต่ถ้าเราเกิดมีแผลไฟไหม้ แล้วศัลยกรรมมันสามารถช่วยให้เราได้รับ “การยอมรับจากสังคม” หาเพื่อนได้ เพิ่มโอกาสได้งานทำ มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น พี่ซันยังหาไม่เจอว่าพระคัมภีร์ตอนไหนที่ต่อต้านแรงจูงใจแบบนี้

4. เปลืองเงินเอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า

- ไม่ปฏิเสธครับ ว่าการทำศัลยกรรมใช้เงินเยอะจริงๆ ถ้างั้นก็ควรห้ามซื้อเครื่องสำอางด้วย เพราะมีสถิติในอเมริกาบอกว่า ผู้หญิงใช้ค่าใช้จ่ายไปกับเครื่องสำอางแต่ละปี “มากกว่า” การเสริมหน้าอกบางประเภทเสียอีก

- แค่การที่มันใช้เงินเยอะ ไม่ได้แปลว่า = บาปนะ ไม่งั้นก็ต้องห้ามซื้อเครื่องสำอาง ห้ามรักษาสิวกันไปเลย เพราะใช้เงินเยอะไม่แพ้กัน

- จะเห็นว่า ประเด็นเหตุผลที่อ้างว่า ศัลยกรรม = ความบาป “ไม่มีน้ำหนัก” เท่าไหร่ ดังนั้น พี่ซันมองว่าการศัลยกรรมเป็น “สีเทา” แต่ “ไม่ใช่สีดำ” ครับ

- ถึงจะพูดแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้เชียร์ให้ทุกคนไปศัลยกรรมนะครับ เพราะว่าประเด็นที่เราควรจะใส่ใจคือ “การศัลยกรรมภายใน” ต่างหาก #ตรงนี้สิที่สำคัญ

- พระคัมภีร์ชอบเน้น “ความงามภายใน” มากกว่า “ความงามภายนอก” ยกตัวอย่างเช่น

1. พระเจ้าเลือกผู้รับใช้ที่ “จิตใจ” ไม่ใช่ “รูปลักษณ์ภายนอก” (1 ซมอ. 16:7)

2. เลมูเอลหนุนใจว่า ความงามภายนอก = เปล่าประโยชน์ // แต่ผู้หญิงที่รักพระเจ้าภายใน = ควรได้รับการยอมรับ (สภษ. 31:30)

3. เปโตรหนุนใจว่า อย่าเอาแต่เสริมความสวยภายนอก ให้ศัลยกรรมภายในกันดีกว่า (1 ปต. 3:3-4)

- ดังนั้น พี่ซันจึงแนะนำให้น้อง “ศัลยกรรมภายใน” มากกว่า “ศัลยกรรมภายนอก” เพราะนี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าแคร์จริงๆ

สรุป

- ไม่มีพระคัมภีร์ข้อไหน ห้ามเรื่องการเสริมความงามเลย มันจึงเป็นประเด็นสีเทา
- เหตุผลการต่อต้านการศัลยกรรมของคริสเตียนบางกลุ่ม ไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่
- คริสเตียนควรใส่ใจกับการ “ศัลยกรรมภายใน” มากกว่า “ศัลยกรรมภายนอก”

References

ความเห็นบางมุมของคริสเตียนที่มอง ศัลยกรรม = สีดำ
http://www.newsmax.com/FastFeatures/Christians-Cosmetic-Surgery-Religion/2015/03/26/id/634646/

สถิติว่าผู้หญิงจ่ายเงินค่าเครื่องสำอางแต่ละปี มากกว่า การเสริมหน้าอกบางประเภทเสียอีก
https://www.statista.com/statistics/281368/us-expenditures-on-major-surgical-cosmetic-procedures/

การวิเคราะห์ บริบท เรื่อง ร่างกายเป็นพระวิหารของพระเจ้า
http://thebiblespeakstoyou.com/your-physical-body-is-not-the-temple-of-the-holy-ghost/