- ยอมรับกันตรงๆว่า พระคัมภีร์เป็นหนังสือที่จดจำรายละเอียดได้ยากมาก

- เรื่องน่าเศร้าก็คือ ถ้าน้องไม่เข้าใจรายละเอียดในพระคัมภีร์ การเปลี่ยนแปลงในชีวิตยิ่งแทบจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย

- จุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ดี จึงควรเริ่มจาก “อ่านพระคัมภีร์ให้เข้าหัว” ซะก่อน

- ทีนี้ ตามหลักจิตวิทยาเนี่ย การอ่านเพียงอย่างเดียว ไม่ทำให้เราจดจำข้อมูลนั้นได้ (เช่น ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ แล้วไม่ได้ทวนหรือเจอเลย ไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็ลืมป่ะ?)

- เทคนิคที่จะช่วยให้สมองจำได้ก็คือ “น้องต้องส่งข้อมูลนั้นออกมาด้วย” เป็นเพราะว่าสมองจะถือว่าข้อมูลที่ถูกส่งออกมา เป็นข้อมูลสำคัญ

- พี่ซันจึงเสนอเทคนิคที่จะช่วยให้น้องอ่านพระคัมภีร์เข้าหัว ผ่านการส่งข้อมูลออกมา 3 รูปแบบ ดังนี้
.
.
.
=== 1. ขีดเส้นใต้ จดโน้ต ===

- บางคนอยากเก็บพระคัมภีร์ไว้สวยๆ ก็เลยไม่กล้าขีดเขียน

- พี่ซันบอกเลยว่า การไม่กล้าขีดเขียนบนพระคัมภีร์จะทำให้น้องจดจำรายละเอียดในพระคัมภีร์ได้แย่ลง!

- นั่นเป็นเพราะ การขีดเส้นใต้ หรือการจดโน้ต เป็นการส่งออกข้อมูลรูปแบบหนึ่ง เมื่อเราอ่านหรือฟังเทศนาแล้วได้อะไรใหม่ๆ การจดโน้ตในพระคัมภีร์จะทำให้น้องจดจำได้นานขึ้น

- สภาพพระคัมภีร์ของพี่ซันจึง “เยิน” ทีเดียว… แก้ง่ายๆ ก็ซื้อใหม่ไปเลยครับ

- พระคัมภีร์ไม่ได้ถูกสร้างมาให้เก็บสวยๆ แต่มันถูกสร้างมาให้เข้าถึงชีวิตคนครับ ดังนั้นพี่ซันขอท้าให้น้องกล้าขีดเขียนไปเล้ย
.
.
.
=== 2. จดคำถามไว้พูดคุยกับอาจารย์ ===

- การเอาข้อมูลที่เราได้จากพระคัมภีร์ มาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด นั่นสะท้อนว่าเราเข้าใจมันในระดับหนึ่งแล้วครับ

- พี่ซันหนุนใจน้องๆ เมื่อเกิดคำถามสงสัย จดโน้ตไว้พูดคุยกับอาจารย์เลยครับ การแลกเปลี่ยนมุมมองก็เป็นการส่งออกข้อมูลรูปแบบหนึ่ง

- ส่วนตัวพี่ซันชอบทำมาก อ่านตรงไหนสงสัย ก็เอาไปแลกเปลี่ยนความเห็นกับศิษยาภิบาล

-การทำเช่นนี้ จะทำให้เราจดจำประเด็นนั้นได้ขึ้นใจเลยล่ะ
.
.
.
=== 3. บอกต่อ ===

- เมื่อน้องอ่านพระคัมภีร์ แล้วค้นพบจุดที่น่าทึ่ง มันอาจเป็นจุดที่น้องได้เรียนรู้ใหม่ๆ จนต้องร้อง Wow!!

- ขอให้น้องเอาประเด็นนั้นบอกกับเพื่อนคริสเตียนที่เป็น Buddy กัน, สอนน้องเลี้ยงต่อ, นำในกลุ่มเซลล์

- พูดง่ายๆคือ ทำอะไรก็ได้ที่เป็น “การบอกต่อ”

- มนุษย์เราไม่สามารถบอกต่อ หรือสอน ในสิ่งที่เราไม่เข้าใจได้อยู่แล้ว ดังนั้น การบอกต่อ จึงเป็นการบังคับให้เราต้องเข้าใจสิ่งนั้น และจดจำมันให้ได้

- การสอนจึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการอ่านพระคัมภีร์ให้เข้าหัว ดังสำนวนที่ว่า “If you want to master something, TEACH IT!”

.
.
.
- แค่ทำตาม 3 เทคนิคนี้ สมองของน้องก็จะถือว่า ข้อมูลในพระคัมภีร์กลายเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจดจำเข้าหัวให้ได้แล้ว :D