- บิท (Bit) คือ “แหล่งโหลดไฟล์” ขนาดยักษ์ ที่มีการแบ่งปันไฟล์ข้อมูลกัน ประเด็นคือ มันมีทั้งไฟล์ที่ถูกและผิดลิขสิทธิ์

- คือถ้าโหลดไฟล์ถูกลิขสิทธิ์ มันก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าในบิทส่วนใหญ่ มันเป็นไฟล์ “เถื่อน” ไม่ถูกลิขสิทธิ์ไง แล้วอย่างงี้คริสเตียนโหลดไฟล์พวกนี้ได้หรือเปล่า?

- “การละเมิดลิขสิทธิ์” เป็นประเด็นที่มีการถกเถียงอย่างร้อนแรงมาโดยตลอด ว่า “ผิดศีลธรรม” หรือเปล่า? ที่เขาเถียงกันก็เพราะว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย

พี่ซันจะสรุปมุมมองจากทั้ง 2 ฝั่ง ให้ดูครับ

ฝั่งต่อต้าน

- พวกฝั่งขวาจัดๆ จะต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างแรง เพราะ คนฝั่งนี้จะมองว่า…
“การละเมิดลิขสิทธิ์ = การขโมย”

- อ่าวเพ่! ก็พวกเพลง หนัง มันก็เป็นของชิ้นหนึ่งนะ ที่ภาษาทางการเรียกว่า “ทรัพย์สินทางปัญญา” ไง ถ้าเขาเขียนชัดเจนว่า นี่ไม่ใช่สำหรับแจกฟรีนะ แล้วเอามันไปใช้ฟรีก็ = เอาของเค้าไปใช้แบบไม่ขออนุญาตไม่ใช่หรอ อย่างงี้มันก็ไม่ต่างกับขโมยดิ …ก็จริงของเขานะครับ

- อีกอย่างต้องยอมรับครับว่า “กฎหมายปกป้องลิขสิทธิ์” นี่มันดี เพราะมันช่วยสร้างแรงจูงใจให้คนสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ถ้าน้องแต่งเพลงดังเปรี้ยงได้ น้องก็จะได้เงินเยอะเนื่องจากค่าลิขสิทธิ์นี่แหละที่คนต้องจ่ายให้น้อง ดังนั้น การมีกฎหมายลิขสิทธิ์จึงเป็นเรื่องจำเป็นต่อการคิดค้น “อะไรใหม่ๆ”

- มาดูความเห็นของพระคัมภีร์บ้าง
พระคัมภีร์มี 2 ประเด็นที่เหมือนจะต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์เหล่านี้

1. เป็นการขโมย
- มีพระคัมภีร์หลายตอนที่ต่อต้าน “การขโมย” (1 คร. 6:10, อฟ 4:28, วว 9:21) นั่นหมายความว่า ถ้าน้องมองว่า การละเมิดลิขสิทธิ์ = การขโมย รับรองว่าพระคัมภีร์ต่อต้านการโหลดไฟล์เถื่อนแน่ๆ

2. ผิดกฎหมาย
- เปาโลหนุนใจให้เราเชื่อฟังกฎหมายของรัฐบาล เพราะพระเจ้าเป็นคนแต่งตั้งผู้มีอำนาจ (รม. 13:1-7)
- ถ้ากฎหมายห้ามการละเมิดลิขสิทธิ์ แล้วน้องแอบไปโหลดไฟล์เถื่อนในบิท นั่นเท่ากับทำผิดกฎหมาย และขัดขืนต่อพระเจ้าด้วย

- ถ้าโบสถ์น้องอยู่ฝั่งขวาจัดและมีความเห็นแบบนี้ พี่ซันแนะนำว่าลองดู CCLI ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้โบสถ์ใช้สื่ออย่างถูกลิขสิทธิ์ ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ 3,000 บาท ดูเพิ่มเติม : http://au.ccli.com

ฝั่งสนับสนุน

- ทีนี้ เราลองย้ายฝั่งมาดูความเห็นของพวกซ้ายจัดบ้างครับ คนฝั่งนี้เชื่อว่า…

เพ่! ไอเดียและผลงานสร้างสรรค์ทุกอย่างมันควรจะเป็น “ของกลาง” ที่ใครๆ ก็สามารถเอาไปใช้ได้สิ ไม่งั้นถ้ามัวมาหวงลิขสิทธิ์กันแบบนี้ ก็ถือเป็นการปิดโอกาสของหลายๆ คนสิ…ก็จริงของเขานะครับ

- ต้องยอมรับว่านอกจากจะเป็นการปิดโอกาสหลายๆ คนแล้ว ผลเสียของการปิดกั้นลิขสิทธิ์ ในอีกแง่หนึ่งมันเป็นการทำลาย “นวัตกรรม” ด้วย

- ลองดูอย่างอเมริกาก็ได้ครับ พี่แกมีกฎหมายลิขสิทธิ์ที่เข้มงวดมาก เข้มงวดซะจน มีเว็บไซต์กว่า 84,000 แห่ง ต้องถูกเซนเซอร์ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำผิดอะไร

- ส่วนงานวิจัยของ CCIA และ Enging Advocacy ก็ชี้ให้เห็นว่า นับตั้งแต่มีการแบ่งปันข้อมูล (หรือพวกบิท นี่แหละ) นอกจากจะเป็นการทำให้อุตสาหกรรม Content เติบโตแบบทะลุ 50% ยังทำให้คน “ใช้จ่ายเงิน” ในแวดวงสื่อกันมากขึ้นด้วย

- เห้ยได้ยังไง? ลองคิดแบบนี้ครับ…
สมมติ พี่ซันอ่านหนังสือ PDF ในอินเตอร์เน็ตแบบฟรีๆ (ละเมิดลิขสิทธิ์) อ่านๆไปก็ “เอ่อ… สนุกดีว่ะ” ไปซื้อมาอ่านจริงดีกว่า แต่ในขณะที่ ถ้าไม่มีหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์เหล่านี้ พี่ซันก็คงไม่มีโอกาสได้เริ่มอ่าน แล้วก็คงไม่คิดจะไปซื้อมันจริงๆ

- ดังนั้น ฝั่งซ้ายจึงมองว่า การละเมิดลิขสิทธิ์ไม่เหมือนกับการขโมย เพราะการขโมยต้องมีคนได้และมีคนเสีย เช่น ถ้าน้องขโมยทีวีพี่ซันไป ก็คือน้องได้ทีวี และพี่ซันเสียทีวี แต่การละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้เป็นแบบนั้น ถ้าน้องเอาเพลงพี่ซันไปใช้ น้องได้เพลงพี่ไป แต่พี่ซันไม่ได้เสียอะไรเลย อันที่จริงได้ประโยชน์ด้วยซ้ำ เพราะเพลงพี่ซันได้รับการแชร์ต่อไปอีก

- CEO ของ Rovio ผู้สร้าง Angry Birds จึงบอกไว้ว่า “การละเมิดลิขสิทธิ์จะส่งผลดีต่อธุรกิจเราในท้ายที่สุด”
.
.
.

- ถ้าอ่านถึงตรงนี้ น้องจะเห็นว่า "ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย” ที่จะคุยเรื่อง “ความถูกต้อง” เกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะมันมีทั้ง “ข้อดีและข้อเสีย”

- กลับมาที่คำถาม “คริสเตียนโหลดบิทได้ไหม?” ถ้าเป็นคริสเตียนไทยส่วนใหญ่ก็คงเอนมาทางด้าน “ไม่ได้”

- แต่เรื่องนี้พี่ซันว่า เราจำเป็นต้องมีการพูดคุยและอธิษฐานกันอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากกฎหมายลิขสิทธิ์ปัจจุบันไม่ค่อยอัพเดท ยังไงก็หนุนใจให้น้องๆ พึ่งพาสติปัญญาจากพระเจ้าในการดำเนินชีวิตเรื่องนี้ให้มากๆ นะคร้าบ :)