ตกลงสักได้ไหม?
พระคัมภีร์พูดเรื่องการสักยังไงบ้าง?
ถ้าเป็นน้องละ คิดว่าสักได้ไหม?
- ข้อพระคัมภีร์ที่ห้าม “การสัก” ตรงๆ คือ
“เจ้าอย่าเชือดเนื้อของเจ้าเพราะเหตุมีคนตาย หรือสักเป็นเครื่องหมายใดๆ ลงที่ตัวเจ้า เราคือพระเจ้า” (ลนต. 19:28)
- ถ้าอย่างงั้น เราจะสรุปได้เลยไหมว่า สัก = บาป? ก็พระคัมภีร์บอกแล้วนี่?
- แบบนี้จะเป็นการตีความพระคัมภีร์แบบ “ขาดบริบท” ครับ ซึ่งมักเป็นสาเหตุทำให้คริสเตียนตีความพระคัมภีร์ตอนต่างๆ “ตามใจตัวเอง” :(
- แถมทำให้เราสรุปแบบกำปั้นทุบดินทื่อๆ ถ้าทำแบบนั้นแล้ว ชีวิตจะอยู่ยากขึ้นเยอะเลยครับ เพราะเราก็ต้อง ห้ามกินเลือดต้ม (ลนต 19:26), ห้ามโกนหนวด (ลนต 19:27), หรือแม้กระทั่งห้ามใส่ยีนส์ผ้าฟอกที่ปะผ้าสองชนิดและห้ามปลูกกล้วยกับยางพาราในสวนเดียวกันด้วย (ลนต 19:19) #ห้ามมันทุกอย่างไปเลย
- เห็นไหมครับ ว่าการตีความแบบ “ไม่ดูบริบท” จะนำไปสู่การตีความ “ตามใจตัวเอง” อะไรที่สอดคล้องกับประเพณีอันดีงามในสังคม ก็ถือว่าพระคัมภีร์เห็นด้วย ส่วนอะไรที่ไม่ตรงตามประเพณีอันดีงามก็ค่อยกลับมาตีความตามบริบท #แบบนี้ผิดจุด #อ่านพระคัมภีร์แบบลำเอียง
- “บริบท” ที่แท้จริงของเลวีนิติที่ยกตัวอย่างมาข้างบนเมื่อกี้ทั้งหมด ผู้เขียนกำลังเตือนอิสราเอลก่อนที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในแผ่นดิน “คานาอัน” ที่จำเป็นที่จะต้องใช้ชีวิตที่ไม่ปะปนกับความเชื่อของคนต่างชาติ (“การสัก” อาจเป็นพฤติกรรมที่เกี่ยวโยงกับความเชื่อทางศาสนาต่างชาติในสมัยนั้น) ดังนั้น จึงห้ามสักในสมัยนั้นครับ แต่นั่นไม่ใช่คำสั่งในวัฒนธรรมปัจจุบันเลย
- ข้อพระคัมภีร์ยอดฮิตอีกตอนที่คนส่วนมากชอบพูดถึงก็คือ “ร่างกายเป็นวิหารของพระเจ้า” จะเอามาสักไม่ได้นะ! (1 คร. 3:16-17, 6:19-20)
- แต่เมื่อดูบริบทแล้ว ชัดเจนว่า “บริบท” ในพระธรรมตอนนี้ เปาโลไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่อง “การสัก” เลย แต่เป็นการพูดถึงเรื่องความแตกแยกของผู้เชื่อในโครินธ์และ “การล่วงประเวณี” ต่างหาก
ต้องหลีกเลี่ยงการตีความ “ตามใจตัวเอง”
- ดังนั้น “การสัก” จึงไม่ใช่ความบาป "โดยตัวมันเอง"
คำถามที่น่าสนใจก็คือ “แล้วอย่างงี้คริสเตียนสักได้ไหม?”
- พี่ซันมองว่า “ไม่ควร” สักอยู่ดีครับ เพราะอะไรน่ะหรือ?
ก็เพราะ…
- การสักในประเทศไทยมักเชื่อมโยงกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ เช่น ยันต์ห้าแถว หรือ หนุมาน เป็นต้น เป็นการง่ายที่ผู้เชื่อใหม่มาเห็นแล้วพวกเขาจะสะดุด (รม. 14:21)
- นอกจากนี้คนไทยยังมองคนที่สักในทางที่ไม่ดีอีกด้วย (สังเกตง่ายๆคือ บริษัทมักไม่รับคนที่มีลายสักเข้าทำงาน) เวลาใครๆเห็นลายสักบนตัวน้อง ก็เป็นการยากที่จะเห็นว่ามันเป็น “การสักเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า”
- อ่านจบถึงตรงนี้แล้ว พี่ซันอยากให้น้องได้ข้อคิด 2 ข้อนี้กลับไปครับ
1. ตอบคำถามให้ดีก่อนจะสัก
ถ้าน้องเป็นคริสเตียนที่กำลังคิดจะ “สัก” ขอให้คิดให้มากๆ อธิษฐานหนักๆ และตอบคำถามนี้ให้ดีว่าเหตุผลที่น้องสักคืออะไร “สักไปทำไม?”
2. ไม่ตัดสินคนที่สัก
คริสเตียน “ไม่ควรจะตัดสิน” คนที่มีรอยสัก เพราะ การสักไม่ใช่ความบาป สังคมจะน่าอยู่ขึ้นเยอะ ถ้าเราไม่ตัดสินคนที่คิดต่าง (รม. 14:13)