- ก่อนอื่น เราเคลียร์กันก่อนว่าการบริจาคอวัยวะไม่ใช่การบริจาคร่างกาย

- การบริจาคอวัยวะ = การให้หมอนำอวัยวะภายในที่ใช้ประโยชน์ได้ไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยที่ต้องการ
ส่วนการบริจาคร่างกาย คือ การบริจาคทั้งร่างของคนที่เสียชีวิตแล้ว เพื่อให้นักศึกษาแพทย์เรียน (ที่เขาเรียกกันว่า “อาจารย์ใหญ่”)

- ประเด็นที่เราคุยกันคือ การบริจาคอวัยวะ ซึ่งมันเป็นวิทยาการใหม่ที่เพิ่งมีมาร้อยกว่าปีนี้เอง ในพระคัมภีร์จึงไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจนว่า คริสเตียนจะบริจาคอวัยวะร่างกายได้หรือไม่
.
.
.
- ทีนี้ ลองมาดูตัวเลขกันบ้าง ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า การบริจาคอวัยวะของคนๆ หนึ่ง อาจช่วยเหลือคนได้มากถึง 50 คน

- ทุกวันนี้ยังมีคนรอรับบริจาคอวัยวะอยู่มาก อย่างในไทย คนรออวัยวะมี 5,468 คน แต่มีคนบริจาคเพียง 157 คน (ไม่ถึง 3% ของคนรออวัยวะ) และคนรับอวัยวะมีเพียง 347 คน (ข้อมูลจากเว็บสภากาชาดไทย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560)

- มาดูประเทศอื่นบ้าง วันที่ 1 ม.ค. 2560 ที่ผ่านมา กฎหมายฉบับใหม่ของฝรั่งเศสกำหนดให้ประชาชนทุกคนเป็นผู้บริจาคอวัยวะเมื่อเสียชีวิต ยกเว้นแต่จะลงทะเบียนขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ไว้แล้ว ว่าไม่ต้องการจะบริจาคอวัยวะ

- ในประเด็นนี้ คริสเตียนเลยมีความเห็น 2 กลุ่ม ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เรามาดูเหตุผลของคน 2 กลุ่มนี้กันโหน่ยยย
.
.
.

1. ไม่เห็นด้วยกับการบริจาคอวัยวะ

- เหตุผลหลักๆ ของคนกลุ่มนี้คือ อยากคงสภาพร่างกายของตัวเองไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุดในวันที่เป็นขึ้นใหม่ เพราะเรื่องที่ว่าร่างกายเป็นพระวิหารของพระเจ้า (1 คร. 6:19-20) และร่างกายที่ตายแล้วจะถูกเปลี่ยนใหม่ในวันสุดท้าย (1 คร. 15:35-54)

- คนกลุ่มนี้จึงคิดว่า เขาไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจได้ว่าตัวเองจะบริจาคอวัยวะร่างกายของตัวเองได้หรือไม่

- อีกเหตุผล คือ คนกลุ่มนี้ไม่เห็นด้วยอย่างแรงกับธุรกิจค้าอวัยวะ เคยมีข่าวออกมาว่า คนยอมเสียไต 1 ข้าง ในแอฟริกาใต้ จะได้รับเงิน 700 ดอลลาร์ ขณะที่ในสหรัฐฯ จะซื้อไต 1 ข้าง ในราคา 30,000 ดอลลาร์ (ได้กำไรเยอะ)

- ทำให้การค้าอวัยวะเป็นธุรกิจที่คริสเตียนกลุ่มนี้รับม่ายด้ายยยย เพราะ ถ้าสนับสนุนให้มีการบริจาคอวัยวะ ก็จะมีคนถูกเอารัดเอาเปรียบมากขึ้น

- ทีนี้เรามาดูเหตุผลจากอีกกลุ่มกันบ้างดีกว่า
.
.
.

2. เห็นด้วยกับการบริจาคอวัยวะ

- เปาโลเคยกล่าวไว้ว่า “เนื้อและเลือดจะมีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้าไม่ได้ และสิ่งซึ่งเน่าเปื่อยจะมีส่วนในสิ่งซึ่งไม่รู้จักเน่าเปื่อยก็ไม่ได้" (1 คร. 15:42-50)

- แสดงว่าในวันที่เราเป็นขึ้นมาจากความตาย ร่างกายที่เราเห็นอยู่ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญและไม่ใช่สิ่งจำเป็นแล้ว ถ้างั้นทำไมเราจะบริจาคอวัยวะไม่ได้ละ?

- กลุ่มนี้เห็นประโยชน์ของการบริจาคอวัยวะว่าสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้อย่างน้อย 1 คน และมากที่สุดถึง 50 คน

- ในเมื่อยังไงเราก็ต้องตายอยู่แล้ว และเราสามารถทำให้การตายเป็นประโยชน์ต่อคนที่ยังต้องดำเนินชีวิตบนโลกนี้ต่อไป กลุ่มนี้เชื่อว่านี่คือการกระทำที่รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง (มัทธิว 5:43)

- พระเยซูขยายภาพการรักเพื่อนบ้านผ่านเรื่องของชาวสะมาเรียใจดี (ลูกา 10:25-37) การบริจาคอวัยวะของเราให้แก่คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก ก็เหมือนชาวสะมาเรียใจดีที่ช่วยเหลือคนยิว

- ส่วนเรื่องตลาดมืดที่มีการค้าอวัยวะนั้น กลุ่มนี้จะมองมุมกลับ คือว่า ถ้ามีการบริจาคอวัยวะที่มากพอต่อความต้องการ การค้าอวัยวะที่ผิดกฎหมายก็จะค่อยๆลดลง และหมดไปในที่สุด
.
.
.
- ถ้าน้องสนใจบริจาคอวัยวะ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และติดต่อศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยได้ที่ http://www.organdonate.in.th/