เรียนพระคัมภีร์กับพี่ซัน

ความถ่อมใจคืออะไร?

2017-09-16

ความถ่อมใจคืออะไร?
มันอยู่ตรงข้ามกับความมั่นใจหรือเปล่า?
เราจะเป็นคริสเตียนที่ทั้งมั่นใจและถ่อมใจได้ไหม?

อยากรู้อ่านต่อเลย

Highlights

- ความมั่นใจในตัวเองมีหลายแบบ
- มั่นใจกับถ่อมใจก็ไปกันได้

- น้องหลายคนอาจเคยได้ยินว่า “เป็นคริสเตียนต้องถ่อมใจอยู่เสมอ” แต่จริงๆแล้วความถ่อมใจคืออะไรกันแน่?

- ความถ่อมใจที่เราพบในพระคัมภีร์บางตอน = การไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง, ไม่เห็นว่าตัวเองดีที่สุด, ไม่เห็นว่าเราควรได้รับความใส่ใจมากกว่าคนอื่น, ยอมละทิ้งความเป็นตัวเอง, เห็นคนอื่นดีกว่าตน

- เพื่อ “รับฟัง”และ”รับใช้” พี่น้อง ซึ่งเป็นการทำตามแบบอย่างพระเยซูที่ “ถ่อมตัว” สละสภาพพระเจ้ามาเป็นมนุษย์ เพื่อชดใช้บาปคนอื่น (ฟป. 2:3-8)

- นอกจากนี้พระเยซูเคยประณามพวกฟาริสีที่โอ้อวดตัวเองว่า “ใครยกตัวขึ้น จะต้องถูกทำให้ต่ำลง ใครถ่อมตัวลง จะได้รับการยกขึ้น” (มธ. 23:12)

- การเน้นย้ำแบบนี้อาจทำให้คริสเตียนรุ่นใหม่บางคนรู้สึก “งง” เพราะว่าคำสั่งให้ถ่อมใจดูสวนทางกับค่านิยมในยุคปัจจุบันที่ โลกพยายามโปรโมทให้ทุกคนมั่นใจในตัวเอง

- ยิ่งเรา “ขี้อวด” ได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดูเป็นคนน่าสนใจ พูดง่ายๆ คือว่าใครอวดแล้วดัง ชีวิตก็ดีไป

- อ้าวเฮ้ย แล้วแบบนี้คริสเตียนควรจะใช้ชีวิตยังไงให้ถ่อมใจ และมั่นใจในตัวเองไปด้วย
.
.
.
- รู้หมือไร่ ความมั่นใจในตัวเองไม่ได้ดีหรือแย่เสมอไป ในทะเลยังมีแมงกระพรุนไฟ ในความถ่อมใจก็มี 2 ด้าน #ไม่เกี่ยว

1. มั่นใจในตัวเองเชิงบวก

- ความมั่นใจในตัวเองเชิงบวก = การเห็นคุณค่าและมั่นใจในความสามารถของตัวเอง

- คนที่มีความมั่นใจเชิงบวกจะสามารถเข้าสังคมได้ดี รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นมากขึ้นและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- คริสเตียนเชื่อว่าพระเจ้าสร้างเรามาด้วยความรักและมอบเป้าหมายในชีวิตให้กับเรา

- ถ้าความมั่นใจของน้องมาจากการรับรู้ว่าพระเจ้ารักและเห็นคุณค่าของเรา เข้าใจการทรงเรียกของพระเจ้าในชีวิตและมีใจขอบพระคุณในความสามารถที่พระเจ้าได้ประทานให้ (อฟ. 2:10, สด. 139:14-15, ปฐก. 1:26-27,31) ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย เป็นที่ถวายเกียรติด้วยซ้ำ

- หลายคนบอกว่าการขาดความมั่นใจหรือดูถูกตัวเองก็ไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้าเช่นกัน เพราะเป็นการมองข้ามพระพรในชีวิตไป

- การมีความมั่นใจในระดับที่เหมาะสมจึง “จำเป็น” ต่อการมีสุขภาพจิตที่ดีและรับมือกับเหตุการณ์เครียดๆได้ดีขึ้น

- สตีฟ อาดัมส์ ศิษยาภิบาล บอกว่า “การสร้างสมดุลระหว่างความถ่อมใจและความมั่นใจ ช่วยขับเคลื่อนพันธกิจของพระเจ้าให้ไปได้ไกล”
.
.
.

2. มั่นใจในตัวเองเชิงลบ

- ความมั่นใจในเชิงลบ = การสร้างความมั่นใจด้วยการเอาตัวเองเป็นใหญ่ คิดว่าสิ่งที่ตนเองทำดีกว่าคนอื่น ไม่รับฟังความคิดเห็น เห็นแก่ตัวและทระนง

- ความมั่นใจแบบนี้แหละ ที่พระเจ้าไม่พอใจและตักเตือนให้ระวังไว้ตลอด อีกทั้งยังขัดขวางไม่ให้เราเป็นคนถ่อมใจอีกด้วย (ยก. 4:6)

- หลายครั้ง เวลาน้องมั่นใจในตัวเองมากเกินไปก็อาจกลายเป็นมั่นใจเชิงลบได้นะ ดังนั้นต้องคิดเรื่องการถ่อมใจไว้ด้วยเพื่อสร้างสมดุล

- แต่สำหรับหลายคนที่มีความมั่นใจแบบนี้เพราะอดีตเคยมีประสบการณ์เจ็บปวด โดนแกล้งหรือทำร้ายจิตใจ เช่น เคยโดนสบประมาทว่าห่วยบ่อยๆ นานเข้าเลยกลายเป็นคนชอบเอาชนะ หยิ่งยโส เพราะอยากลบบาดแผลที่คนอื่นสร้างไว้

- กรณีนี้ น้องควรให้พระเจ้าช่วย พลิกความเจ็บปวดเป็นพระพรด้วยการอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ (รม. 12:3) หรือถ้าเป็นเอามาก ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำแนะนำร่วมด้วย
.
.
.
.
- ดังนั้น ถ้าความมั่นใจของเราถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เป็นไปในด้านเชิงบวก เราก็ทั้งมั่นใจและถ่อมใจไปพร้อมๆกันได้

สรุป

- ความมั่นใจมี 2 แบบคือ
1.ความมั่นใจเชิงบวก
2.ความมั่นใจเชิงลบ
- ความมั่นใจเชิงบวกเกี่ยวข้องกับอุปนิสัยที่ดี เห็นคุณค่าตัวเองอย่างเหมาะสมและไม่เป็นอุปสรรคต่อการถ่อมตน
- ความมั่นใจเชิงลบเกี่ยวข้องกับอุปนิสัยที่ไม่ดี มองตัวเองเหนือกว่าคนอื่นและเป็นอุปสรรคต่อการถ่อมตน
- ถ้าการมั่นใจของเราถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เราก็ทั้งมั่นใจและถ่อมใจได้แน่นอน

References

ศิษยาภิบาลพูดเรื่องความมั่นใจและความถ่อมใจ
http://www.christianitytoday.com/pastors/2008/march-online-only/self-confidence-humility-your-choice.html

ความมั่นใจ
https://www.gotquestions.org/self-esteem.html