เรียนพระคัมภีร์กับพี่ซัน

แค่ "เชื่อ" แล้วจะรอดจริงไหม?

2017-07-27

ตกลงต้องมีการกระทำด้วยรึป่าว?
ทำไมพระคัมภีร์บางตอนบอกว่าต้องมีการกระทำด้วย
งงๆ ไม่ค่อยเข้าใจเลย

อยากเคลียร์เรื่องนี้ ต้องเลื่อนลงไปอ่าน

Highlights

- เปาโลอยากจะไปตัดไอ้จ่อนใคร!?
- แม้แต่มาร์ติน ลูเทอร์ ก็เคย งง กับคำถามนี้มาก่อนเหมือนกัน

- ต้องบอกว่า นี่เป็นประเด็นที่คริสเตียนหลายคนยัง “งงๆ ก่งก๊ง” กันอยู่

- คือ ไอ้ที่คนสอนๆ กันมาว่า “แค่เชื่อก็รอด” เนี่ย ก็พอจะเข้าใจนะ แต่ว่าทำไมพระคัมภีร์บางตอนก็เหมือนจะชี้ว่า ถ้าชีวิตเราทำไม่ดี เราอาจจะไม่รอดก็ได้?

- แบบนี้ ก็เรียกว่าจะรอดได้ต้องมี “การกระทำ” ด้วยอะดิ?

- งั้นก่อนจะไปต่อ พี่ซันขอขยายความทั้ง 2 ด้าน ก่อน ดังนี้ครับ
.
.
.
=== 1. แค่เชื่อก็รอดแล้ว ===

- พวกแนวคิดนี้จะพบในพระธรรมแถวๆ โรม (เช่น รม. 10:9) หรือ กาลาเทีย (เช่น กท. 3:10-11) และตอนอื่นๆ อีกมากมาย

- จนเปาโลถึงขนาดบอกว่า ใครที่สอนว่า ความรอดต้องใช้การกระทำเนี่ย = พวกเทียมเท็จ ใครสอนแบบนี้ เปาโลจิโกรธนะ! โกรธขนาดที่ว่าอยากจะไปตัดไอ้จ่อนของคนพูดเลย (กท. 5:12) #อุ่ยยยยย

- งั้นก็แปลว่า คริสเตียนจึงรอดผ่านความเชื่อ คือ แค่เชื่อก็รอดแล้ว ใครสอนต่างจากนี้ = ผิดจุด!?
.
.
.
=== 2. ต้องมีการกระทำด้วย ===

- แต่พอเราพลิกไปอ่านพระธรรมแถวๆ ยากอบ เช่น ยก. 2:24

“ผู้ใดจะเป็นคนชอบธรรมได้ ก็เนื่องด้วยการประพฤติ และมิใช่ด้วยความเชื่อเพียงอย่างเดียว”

เราก็จะเริ่ม งง ก่งก๊งกันอีกครั้ง ว่าตกลงมันยังไงกันแน่

- พี่ซันจะบอกว่า น้องไม่ได้ “งง” อยู่คนเดียวหรอกครับ เพราะก่อนหน้านี้ มาร์ติน ลูเทอร์ เจ้าพ่อโปรแตสแตนท์ ก็เคยคิดจะตัดยากอบออกจากพระคัมภีร์ เพราะความ “งง” นี้เหมือนกัน

- พระธรรมยากอบ ไม่ได้อินดี้และสอนผิดแต่อย่างใดครับ ที่จริงแล้ว ทั้ง 2 ด้านนี้ไปด้วยกันได้
.
.
.
- พี่ซันจะขออธิบายหลักการเรียบง่าย คือ “Being” และ “Doing” ครับ

- คืองี้ เมื่อเราเชื่อ เราก็ “รอด” แล้ว นั่นคือ เราได้รับการเปลี่ยนสถานะใหม่ (Being)

หลังจากนั้น เราก็จะมี “ความตั้งใจ” ที่อยากจะทำดี (Doing) ครับ (อฟ. 2:22-24)

- พอน้องทำดี (Doing) มันก็เป็นการกลับไปเสริมความเชื่อของน้อง (Being) ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น (ยก. 2:22)

- พูดง่ายๆก็คือ Being —> Doing —> Being —> Doing —> … วนไปเรื่อยๆ

- จุดสำคัญ คือ เมื่อน้องเชื่อแล้ว (Being) มันต้องมี “ความตั้งใจ” ที่อยากจะทำดี (Doing) นั่นเอง ไม่ใช่ว่าต้องทำดี 100% แต่อย่างน้อยต้องมีความตั้งใจ

- ถ้าปากน้องบอกว่าเชื่อแล้ว แต่ไม่มีความตั้งใจจะทำดีเลย ก็อาจแปลได้ว่า น้องยังไม่ได้เชื่อจริงๆ

สรุป

- แค่เชื่อก็รอดแล้วจริงๆ
- ส่วนเรื่องการกระทำ อธิบายโดยหลักการ
Being —> Doing —> Being —> Doing —> …
- เมื่อน้องเชื่อแล้วจริงๆ น้องต้องมี “ความตั้งใจ” ที่อยากจะทำดีด้วย (มีการกระทำตามมา)

References

มาร์ติน ลูเทอร์ คิดจะเอา ยากอบ ออกจากพระคัมภีร์
http://www.biblestudy.org/question/why-did-martin-luther-want-book-of-james-out-of-bible.html