- “ความสุขมีแก่เขา ที่ไม่ได้เกิดเป็นผู้หญิง” - คำอธิษฐานของรับบียิว

- นี่นับว่าเป็นคำอธิษฐานที่ โหดจัด รัสเซีย เลยนะครับ เพราะสะท้อนสภาพสังคมในอดีตได้เป็นอย่างดีว่า “ผู้หญิง” นั้น โดนดูถูกมากแค่ไหน

- ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอก แค่ผู้หญิงในสมัยพระคัมภีร์ ไม่มีสิทธิ์เรียนหนังสือ ไม่มีปากมีเสียงในสังคม ต้องทำงานปรนนิบัติสามีเยี่ยงทาส และอื่นๆ

- ส่วนหนึ่ง ที่มันไม่เท่าเทียม เพราะคริสเตียนรับอิทธิพลมาจากพระคัมภีร์ ซึ่งดูเหมือนจะเน้นความสำคัญ “ผู้ชาย” มากกว่า

- เช่น
1.พระคัมภีร์ทั้งเล่มน่าจะเขียนโดยผู้ชาย
2.พระเจ้าถูกเรียกเป็น “พ่อ”
3.พระเจ้าสั่งว่า ผู้ชายจะปกครองผู้หญิง (ปฐก. 3:16)
4.ชื่อวงวานศ์จะเรียกแต่ชื่อ ผู้ชาย (เช่น ปฐก. 5)
5.เปาโลห้ามผู้หญิงสั่งสอน (1 ทธ. 2:12)

.
.
.

- ด้วยความที่ผู้หญิงถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมนี้เอง ทำให้เกิดคริสเตียนคิดต่างกัน

- ถ้าเราจะแบ่งความเห็นง่ายๆ เป็น 2 กลุ่มครับ

ฝั่งขวา

- พวกนักวิชาการจะเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Traditionalist บ้าง Fundamentalist บ้าง แต่จะชื่อไรก็เอาเหอะ เอาเป็นว่าพวกเขาเลือกอยู่ฝั่งขวา

- คนส่วนใหญ่ฝั่งนี้ จะเชื่อว่า พระเจ้าให้ “คุณค่า” กับเพศชายกับหญิงเท่าเทียมกัน เพียงแต่ว่า “บทบาท” หน้าที่ต่างกัน และผู้หญิงก็ไม่ควรมาทำหน้าที่ผู้ชายด้วย!!

- เช่น หน้าที่ศิษยาภิบาล หรือผู้นำโบสถ์ เป็นของผู้ชายเท่านั้น ดังนั้นฝั่งขวา ก็จะ “ไม่อนุญาต” ให้ผู้หญิงขึ้นไปเทศนา

- พระคัมภีร์ก็เขียนชัดอยู่แล้วปะ (1 ทธ 2:11-12, 1 ทธ 3:1-13) ถ้าจะมาบิดเบือนพระคัมภีร์ ก็ไม่ต้องคุยต่อ จบนะ…
.
.
.

ฝั่งซ้าย

- ชื่อเล่นของฝั่งนี้คือ “Feminist Theology” ซึ่งเพิ่งเป็นกระแสมาไม่ถึง 50 ปี

- กลุ่ม Feminist = กลุ่มที่เรียกร้องความเท่าเทียมให้กับเพศหญิง

- โดยคนก็มักจะพูดถึง Feminist ในมุมมองที่แตกต่างกันไป แต่พี่ซันจะขอพูดในส่วนของ Feminist ที่อ้างอิงอยู่บนหลักการพระคัมภีร์ก่อนละกันนะ (บางคนเรียกว่า Evangelical Feminists)

- หลักๆ คือ กลุ่มนี้จะเรียกร้องให้คริสเตียนดึงสติกันได้แล้ว ที่จริงพระคัมภีร์มองเรื่องเพศอย่างเท่าเทียม

- ยกตัวอย่างเช่น

1.พระเจ้าถูกเรียกเป็น “พ่อ” แต่ก็มีอีกตั้งหลายตอนที่พระองค์เป็นเหมือน “แม่” (อสย. 49:15, สดด. 22:9-10)

2.พระเยซูก็เป็น Feminist นะเว้ย ฉากหนึ่งที่ชัดเจนสุดๆ ก็คือ มารธากำลังทำหน้าที่ผู้หญิงในการต้อนรับแขก ในขณะที่มารีย์ดันไปทำหน้าที่ผู้ชาย คือนั่งฟังพระเยซูสอน (ทำตัวได้รับการศึกษา) และพระเยซูไม่ได้ด่าที่มารีย์ทำหน้าที่ผู้ชายเลย (ลก. 10:38-42)

3.ไอ้ที่เปาโลห้ามผู้หญิงสอนในโบสถ์อะ มันเป็นเรื่องของ “วัฒนธรรม” ในสมัยนั้น เพราะผู้หญิงนั้นไม่มีการศึกษา แต่โลกยุคนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้หญิงมีการศึกษาดี ดังนั้น ผู้หญิงสามารถสอนในโบสถ์ได้ (1 ทธ. 2:11-12)

- ฝั่งซ้ายจึงมองว่า ผู้หญิงกับผู้ชายมี "ความเท่าเทียม” ทั้งในด้านคุณค่าและหน้าที่ทางสังคม
.
.
.
.
- ไม่ว่าน้องจะเชื่อฝั่งไหนก็ตาม แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ เราผู้ชายให้ความไม่เท่าเทียมกับผู้หญิงมายาวนานหลายพันปี #ชั้นทำผิดไปแล้วจริงๆ

- พี่ซันว่า นี่เป็นโอกาสที่ดี ที่พวกเราจะเริ่มต้นปฏิบัติกับผู้หญิงอย่างเท่าเทียมและมีเกียรติ ให้สมกับที่พวกเธอเป็นลูกพระเจ้าเหมือนกันคร้าบ :)