ต้มเลือดหมู ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก สเต็กไม่สุก
เห็นหลายคนไม่กิน ถ้ากินแล้วจะบาปไหม?
อยากรู้
เลื่อนไปอ่าน
- อย่าคิดว่า การกินเลือด เป็นเรื่องเล็ก
- เพราะถ้าน้องเชื่อว่า “กินไม่ได้” จะทำให้น้องอดกินเมนูเด็ดๆ อย่าง ต้มเลือดหมู ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก เลยนะ
- ว่าแต่ พระคัมภีร์มองเรื่องนี้ยังไง?
- หลักๆ มีคริสเตียนตีความ 2 แบบ คือ “กินเลือดไม่ได้” กับ “กินเลือดได้”
- กลุ่มนี้จะอ้างพระคัมภีร์หลายตอนที่มีคำสั่งว่า “ห้ามกินเลือด” เช่น ปฐก. 9:4, ลนต. 17:10-14, 1 ซมอ. 14:34 เป็นต้น
- ประเด็นคือ คนกลุ่มนี้ก็รู้ดีว่า เราไม่ได้ต้องทำตามธรรมบัญญัติเก่าแล้ว แต่เป็นเพราะ พระเจ้าให้เหตุผลว่า “เลือด = ชีวิต” (ลนต. 17:14) คนกลุ่มนี้ก็เลยจะไม่กินเลือด
- เหตุการณ์ที่คนกลุ่มนี้ชอบใช้มากที่สุด คือ ข้อสรุปจากสภาเยรูซาเล็ม ที่สั่งผู้เชื่อยุคแรก ไว้ว่า “ห้ามกินเลือด” ทั้งๆ ที่อยู่ในพันธสัญญาใหม่แล้ว (กจ. 15:20)
- พวกเคร่งจัดๆ จะไม่กินแม้กระทั่ง เนื้อสัตว์ที่มีเลือดคั่งข้างใน เช่น สเต็กไม่สุก
- บางคนอาจจะสะดุดหัวขมัมได้ ถ้าเห็นน้องนั่งกิน เกาเหลาเลือดหมูร้านเด็ดข้างโบสถ์
.
.
.
=== 2. กินเลือดได้ ===
- ถ้าน้องเชื่อแบบนี้ ยินดีด้วย! เพราะคริสเตียนส่วนใหญ่ก็เชื่อแบบนี้
- ครั้งหนึ่ง พระเยซูเคยพูดว่า อาหารที่กินเข้าปากไม่ได้ทำให้เรามลทิน อันที่จริง อาหารทั้งหมดไม่มีมลทินด้วยซ้ำ (มก. 7:18-19)
- และหนึ่งในจุดเปลี่ยนใหญ่คือ เปโตรได้รับนิมิตเกี่ยวกับ อาหารที่เขาห้ามกิน แต่พระเจ้าพูดว่า อย่าเรียกมันว่ามลทินเพราะพระเจ้าชำระแล้ว (กจ.10)
- ซึ่งนำไปสู่การตีความ 2 แบบ คือ พระเจ้ายกเลิกกฎห้ามกิน (เย่) และความหมายที่ลึกกว่าคือ ให้ไปเป็นพยานกับคนต่างชาติ (กจ. 10:28)
- นอกจากนี้ เปาโลยังบอกด้วยว่า เราเป็นอิสระจากธรรมบัญญัติแล้ว อย่าตัดสินกันเรื่องการกิน (กท. 5:1, คส. 2:16) การกินอาหาร “อะไร” ไม่สำคัญเท่ากิน “อย่างไร” (1 คร. 8:8-9)
- ส่วนเรื่องคำสั่งจากสภาเยรูซาเล็มนั้น มันมีเหตุผลเพื่อหาจุดร่วมลงตัว “ชั่วคราว” ระหว่างยิวและต่างชาติเท่านั้น (กจ. 15:21) ไม่ใช่คำสั่งในศตวรรษที่ 21 ที่เราอยู่ตอนนี้
.
.
.
- อย่างไรก็ดี ถ้าน้องอยู่ฝ่ายที่เชื่อว่า “กินเลือดได้” ก็อย่าไปกวนตรีนอีกฝ่ายหนึ่ง ด้วยการจัดเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวน้ำตกในโบสถ์ เพราะเปาโลเตือนให้เราเห็นใจผู้ที่มีความเชื่ออีกแบบ (รม. 14)