ระบบแรงจูงใจคริสเตียน 2.0
ในเมื่อแรงจูงใจ 1.0 ไม่สามารถจูงใจคริสเตียนได้อย่างยั่งยืน จึงมีการใช้แรงจูงใจ 2.0 เข้ามาช่วยแก้ปัญหา
แรงจูงใจ 2.0 เกิดจาก “ปัจจัยภายนอก” เป็นหลัก คือการให้รางวัลและลงโทษ เพื่อก่อให้เกิดพฤติกรรมบางอย่าง
ยกตัวอย่าง
รางวัล : เมื่อเราเชื่อฟังพระเจ้า แล้วพระเจ้าอวยพรเรา
ลงโทษ : เมื่อเราไม่เชื่อฟังพระเจ้า แล้วพระเจ้าตีสอนเรา
แรงจูงใจลักษณะนี้ก็คล้ายๆกับที่พ่อแม่จ้างเราซักผ้า หรือบริษัทจ่ายโบนัสให้พนักงาน
น้องอาจจะคิดในใจว่าวิธีการจูงใจแบบนี้มันไม่ work หรอก เพราะมันได้ผลกับแค่กลุ่มคนที่ยึดติดทางโลก เป็นคริสเตียนนะไม่ใช่พนักงานบริษัทที่อยากจะได้โบนัส (โลกสวยไปดิ) แต่เอาจริงป๊ะ แรงจูงใจ 2.0 นี่มันโค่ดจะ work เลยนะ โบสถ์ที่ชอบเทศนาแนวนี้จะมีสมาชิกคริสตจักรเยอะมาก
การใช้แรงจูงใจ 2.0 น่ะไม่ได้ผิดเสมอไปหรอกนะ ประเด็นมันอยู่ที่ว่าต้องใช้แรงจูงใจ 2.0 อย่างเหมาะสมต่างหาก
ถ้าใช้รางวัลมาดึงดูดมากจนสุดโต่ง ก็อาจถูกจัดเป็นพวกเทียมเท็จ (Prosperity gospel) ซึ่งเป็นพวกคำสอนที่ว่า ถ้ามาเป็นคริสเตียนแล้วพระเจ้าจะอวยพร จะรวย ชีวิตจะสุขสบาย แฮปปี้ไม่มีความทุกข์เลย ซึ่งพวกแรงจูงใจ 2.0 ที่สุดโต่งแบบนี้ “ไม่ใช่” ความเชื่อที่ถูกต้องนะครับ
มาพูดในมุมมองจากพระคัมภีร์ น้องจะเจอแรงจูงใจ 2.0 ทั่วไปในพระคัมภีร์เยอะมาก โดยเฉพาะพันธสัญญาเดิม เช่น ลนต 26, ฉธบ 28
นี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าสัญญาและเตือนเราไว้จริงๆครับ จะเห็นว่าข้อดีของแรงจูงใจ 2.0 คือ ถ้าใช้อย่างถูกทางเหมาะสมมันจะเสริมสร้างชีวิตคริสเตียนของเราอย่างมาก เสริมสร้างให้เราเป็นคริสเตียนที่เชื่อฟังและรับใช้ แต่มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย พี่ซันบอกเลยว่าข้อเสียซึ่งเป็นจุดบกพร่องของแรงจูงใจ 2.0 นี่อันตรายมากครับ
ดังนั้นพี่ซันมองว่า วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือต้องใช้ แรงจูงใจ 3.0 ว่าแต่มันคืออะไร เป็นยังไง? รออ่านต่อได้เลย!
อ่านแรงจูงใจ 1.0 ได้ที่ https://www.facebook.com/bibleonlinewithson/photos/a.976098632497189.1073741830.974946439279075/1024457340994651
อ่านแรงจูงใจ 3.0 ได้ที่ https://www.facebook.com/bibleonlinewithson/photos/a.976098632497189.1073741830.974946439279075/1026016110838774