มาอัพเดทเทรนพันธกิจในปีใหม่ และยุคที่จะมาถึงนี้กันดีกว่า!
ยุคแบบนี้เทรนพันธกิจแบบไหนจะมาแรง?
คริสเตียนจะทำพันธกิจแนวไหนดีเพื่อจะ “ปรับตัว” ให้ทันกับโลกในยุคนี้?
- เรากำลังอยู่ในยุค “ข้อมูลท่วมท้น” (Information overload) คือ การเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างเป็นไปได้ง่ายมาก
- สมาชิก 80% เดินเข้าโบสถ์พร้อมกับ “สมาร์ทโฟน” ซึ่งสามารถเข้าถึงบทความคริสเตียนดีๆ คำเทศนาจากอาจารย์ระดับโลกใน Podcast, Youtube หรือ ดู Live ของโบสถ์ทั่วโลก ได้เพียงปลายนิ้ว ต่างกับสมัยก่อนที่การเข้าถึงสิ่งเหล่านี้เป็นไปได้ยากมาก
- แล้วนักเทศน์ที่อยู่ตรงหน้า กำลังเทศนาไปแล้ว 45 นาที อ๊ากกกก!! โดยเฉลี่ยคนเราส่วนใหญ่จะหมดสมาธิการฟังไปตั้งแต่ 18 นาทีแรก ยิ่งเป็นยุคแบบนี้ จึงไม่แปลกเท่าไหร่ที่เรามักเห็นคนหยิบมือถือขึ้นมากดในขณะฟังเทศน์…
- ดังนั้น เทรนโลกยุคนี้ คือ การเทศนาที่ “สั้น” และ “กระชับ” มากขึ้น
- อันที่จริงไม่ใช่แค่สั้นและกระชับเท่านั้น แต่จะต้องเทศน์ให้ “แตกต่าง” มากขึ้นด้วย เพราะถ้าเป็นข้อมูลพื้นฐานธรรมดาที่ทุกคนเคยฟัง จะไม่สามารถดึงความสนใจได้ คนจะรู้สึกเฉยๆ นั่นทำให้คนหันไปเสพข้อมูลอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าแทน เพราะ ยุคนี้มันมี “ข้อมูลท่วมท้น” มากมายซะเหลือเกิน
- โจทย์ของการทำกลุ่มสามัคคีธรรมตามโบสถ์จะเปลี่ยนไปครับ
- Social media ได้มอบพลังให้กับผู้คน ในการเชื่อมโยงกับคนที่มี “ความสนใจ” เหมือนๆ กันได้อย่างง่ายดาย การสามัคคีธรรมจึงไม่ได้จับกันอยู่แค่คนในโบสถ์เดียวกันอีกต่อไป
- แต่เป็นการรวมกลุ่มคนที่มีความสนใจเหมือนๆกัน เช่น คนที่สนใจในการร้องเพลงแร๊พโย่ว คนชอบเตะบอล คนชอบกินปิ้งย่าง คนพวกนี้จะรวมกลุ่มเพื่อสามัคคีธรรมกันตามไตล์แต่ละกลุ่ม
- นั่นแปลว่า “การทำพันธกิจในยุคนี้จะสร้างสรรค์ยิ่งกว่ายุคไหนๆ”
- ต้องบอกว่า iServe มองเห็นเทรนนี้ได้เร็วกว่าเพื่อนเลยครับ เขาจึงพยายามสร้าง Movement ตามความสนใจในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งพี่ซันว่า “เจ๋ง” จริง
- เทรน “การแบ่งแยก โบสถ์ชั้น โบสถ์เทอว์” ในยุคนี้จะตกไป เพราะ พลังของอินเตอร์เน็ตได้ทำลายกำแพงนี้ไปแล้วครับ ในขณะที่การรวมกลุ่มข้ามโบสถ์ ข้ามนิกาย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดและขยายขอบเขตของข่าวประเสริฐจะมีมากขึ้น
- พี่ซันขอพูดในประเด็น “การประกาศ” “การนมัสการ” และ “การเรียนพระคัมภีร์”
- การประกาศ : ยุคนี้การประกาศบนโลกออนไลน์จะมาแรง เราต้องการผู้ผลิต “ใบปลิวออนไลน์” โดยมีเนื้อหาที่ “สร้างสรรค์” ผ่านสื่อที่ “น่าสนใจ” และตอบโจทย์คนในยุคนี้ เช่น Video, Infographic
- การนมัสการ : การทำ Live บน Facebook หรือ อัดทาง Podcast ของคริสตจักร เพื่อให้คนที่ไม่สามารถไปร่วมโบสถ์ ยังสามารถติดตามการนมัสการและการเทศนาได้อยู่ จะตอบโจทย์ยุคแห่งโลกอินเตอร์เน็ตมากขึ้น โบสถ์ไหนเริ่มทำก่อน พี่ซันว่าได้เป็นต้นกระแสได้แน่นอน
- เรียนพระคัมภีร์ : มีการคาดการณ์ว่า ตลาดการเรียนรู้บนโลกออนไลน์ จะเติบโตปีละ 5% จนถึงปี 2023 ไปแตะที่ 230 พันล้านเหรียญ คือ พูดง่ายๆว่า การเรียนบนโลกออนไลน์เป็นเทรนที่กำลังมาแรงและขยายตัวอย่างบ้าคลั่ง แน่นอนว่าไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่อง “พระคัมภีร์” ครับ ใครสอนพระคัมภีร์ได้ อย่าลืมหันมามองโลกออนไลน์นะครับ ^.^
- เด็กรุ่นใหม่กำลังโตมากับยุคที่เรียกว่า “Post-Modern” คือ พวกเขาไม่ได้เชื่ออะไรง่ายๆ อีกต่อไป การตีกรอบให้เขาเชื่ออย่างนั้นอย่างนี้ กลับเป็นการสร้างกำแพงและคำถามขึ้นในใจของเขา
- ดังนั้น ในยุคนี้บทเรียนที่ “เปิดกว้าง” ต่อความคิดของนักเรียน คือ กำหนดแนวทางที่กว้างมากขึ้นแต่ไม่สรุปว่าต้องหันซ้ายหรือหันขวาทางใดทางหนึ่งเท่านั้น (เช่น CBA) จะเป็นเทรนหลักของบทเรียนพระคัมภีร์ที่ตอบโจทย์คนในยุคนี้ และเป็นบทเรียนที่เด็กๆ ยุค Post-Modern กำลังมองหา
- ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รูปแบบนี้สำเร็จ คือ การที่คนเข้าถึงข้อมูลด้วยตัวเองได้ ถ้าย้อนกลับไป 20 ปีก่อน แค่น้องจะหาอ่านหนังสืออธิบายพระคัมภีร์ซักเล่มยังยากเลยครับ แล้วตอนนี้น่ะหรอ? พี่ซันสามารถเปิดอ่านอรรถอธิบาย 10 เล่มในมือถือ โดยใช้เวลาแค่ 10 วินาทีเท่านั้น
- บอกเลย ว่าตั้งแต่ควานหา บทเรียนศึกษาพระคัมภีร์ในประเทศไทยมา แทบไม่เจอ บทเรียนแบบ “เปิดกว้าง” เลย ใครสร้างบทเรียนแบบนี้ได้ เชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่จะอยากได้เพียบ!