เรียนพระคัมภีร์กับพี่ซัน

สรุป “คริสเตียนกับเพศที่ 3” ใน 3 นาที

2017-02-10

- คืองี้ครับ วันอังคารที่ผ่านมาพระคริสต์ธรรมสวนพลู จัดงานเสวนาเรื่อง “คริสตจักรกับเพศทางเลือก LGBT”

- โดยเชิญ 3 กุนซือ มาพูดคุยกันในประเด็นที่ว่า “คริสเตียนควรจะตอบสนองยังไงกับเพศที่ 3 ?”

- นับว่าเป็นงานเสวนา 3 ชั่วโมงที่ทั้งมันส์และได้ฟามรู้ แต่บางคนก็ไม่ได้มีโอกาสมาร่วม

- พี่ซันเลย จัด “สรุป” เนื้อหาภายในงานเสวนา มาให้อ่านกันแบบเนื้อๆ เน้นๆ “อ่านจบใน 3 นาทีเท่านั้น” อาจจะมีการใส่ความเห็นคิดส่วนตัวลงไปบ้าง เพื่อให้ลำดับความคิดของบทความไหลลื่นมากขึ้น

- ใครข้องใจเรื่อง “เพศที่ 3” บอกเลยว่า ต้องเลื่อนนิ้วลงไปอ่าน!!
.
.
.

- ก่อนอื่นต้องมารู้จัก “LGBT” ก่อน ซึ่งย่อมาจาก Lesbian Gay Bisexual Transgender บางคนก็เรียกว่า “เพศทางเลือก” / “เพศที่ 3”

- พี่ซันจะขอสรุปเฉพาะประเด็นสำคัญที่อาจารย์แต่ละท่านพูดและการนำไปใช้นะครับ
.
.
.

1. เพศที่ 3 ในมุมศาสนศาสตร์ (ศจ.ดร.นที)

- พระเจ้าสร้างมนุษย์มาให้มีความสัมพันธ์ทางเพศแบบ ชาย-หญิง (ปฐก. 2:21-24, มก. 10:6-9, 1 คร. 7:1-2) การรักร่วมเพศจึงผิดไปจากที่พระเจ้าสร้าง

- มีข้อพระคัมภีร์ที่บอกว่า “การรักร่วมเพศ = บาป” อยู่หลายตอนด้วยกัน (ลนต. 18:22, ลนต.20:13, รม 1:26-28, 1 คร. 6:9-11, 1 ทธ. 1:8-10, ยด 1:7)

- อย่างไรก็ดี ถ้าเราไปอ่านบริบทของ เลวีนิติ หรือ โรม เนี่ย จะพบว่าผู้เขียนไม่ได้ห้ามแค่การรักร่วมเพศเท่านั้นนะ แต่ห้ามพฤติกรรมความบาปอื่นๆ อีกหลายอย่างด้วย

- ยกตัวอย่างเช่น คนที่อิจฉา, โลภ, ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ เป็นต้น เพราะงั้น ดังนั้น เราไม่ควรตีตราเพศที่ 3 ว่าเธอน่ะคนบาป เพราะจริงๆ แล้ว #ทุกคนก็เป็นคนบาปเหมือนกัน

- เราอาจจะสรุปได้ว่า “การรักร่วมเพศ = ความบาป” แต่ว่าเป็นความบาปที่ “เท่าเทียบ” กับบาปแบบอื่นๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า “ทุกคน” ต้องการพระคุณของพระเจ้า
.
.
.

2. เพศที่ 3ในมุมจิตวิทยา (พญ.สมรัก)

- หลายครั้ง LGBT เกิดจากปัญหาวัยเด็ก ทำให้หลายคนอาจไม่เข้าใจสาเหตุที่ตัวเองเปลี่ยนเพศด้วยซ้ำ เพราะปัญหาเหล่านั้นมันซ่อนอยู่ลึกๆ

- พูดง่ายๆ ก็คือ ปัญหา LGBT เนี่ยมันอาจมี story อยู่เบื้องหลัง คล้ายๆกับ “ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็ง” ภายนอกเราอาจจะเห็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง แต่ภายใต้น้ำลึกล้วนมีฐานภูเขาใหญ่โตที่เรามองไม่เห็นอยู่ ซึ่งนั่นแหละ คือเบื้องหลังของ “ปัญหา”

- เป็น LGBT อาจจะอยู่ยาก เพราะว่ายังมีบางที่ในสังคมที่ไม่ต้อนรับ เช่น ไปโบสถ์ก็เปิดเผยตัวไม่ค่อยได้ เพราะอาจถูกคริสเตียนตราหน้าว่าเป็น “คนบาป”

- สิ่งที่พวกเขาพอทำได้ในฐานะที่เป็นคริสเตียนที่รักพระเจ้าก็ คือ จับกลุ่มรวมกันตั้งโบสถ์สำหรับคริสเตียนเพศที่ 3 แต่พอมีโบสถ์แบบนี้กลับถูกคริสเตียนคนอื่นโจมตีอีก

- แล้วเราควรจะช่วยพวกเขายังไงดี?

- ตามหลักจิตวิทยาแล้ว ใครๆก็ต้องการ “ความรัก” หนทางในการเยียวยาที่ดี จึงไม่ใช่การตัดสินความถูกผิดใส่พวกเขา แต่เป็นการให้ความรักแบบที่พระเจ้าให้พวกเขาเช่นกัน

- โมเดลจิตวิทยา “ถนนสู่สุขภาวะ” ก็เลยตามมาติดๆ ซึ่งเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยให้กลับสู่สภาพดี

- เนื้อหาย่อๆ ก็คือ เราต้องค่อยๆ รักษาพวกเขาด้วยการเสริมพลังด้วยความรัก ให้ความหวัง และฟื้นฟูจิตวิญญาณ ช่วย LGBT รวมกลุ่มกันได้ จนพวกเขามีที่ยืนของตัวเอง กล้าตัดสินใจและรับผิดชอบชีวิต
.
.
.

3. เพศที่ 3 ในมุมศิษยาภิบาล (ศจ.ดร.ศึกษา)

- ก่อนอื่น ต้องเข้าใจตรงกันก่อนว่า “การรักร่วมเพศ = บาป”

- แต่ก็อย่าลืมว่า “เราทุกคนก็เป็นคนบาปเช่นกัน" พระเจ้าให้เรารัก “คนบาป” แต่ไม่รัก “ความบาป”

- โบสถ์เป็นสถานที่ของ “คนบาป” (เราทุกคนเป็นคนบาป) ดังนั้น ไม่ว่าเพศที่ 3 หรือใครก็ตามที่เข้ามาในโบสถ์ เราก็ต้องอ้าแขนรับพวกเขาไว้ด้วยความรัก เพราะทุกคนสามารถมีความหวังในพระเจ้าได้

- ท่าทีที่คริสเตียนควรจะตอบสนองก็คือ
1.ยอมรับว่า รักร่วมเพศเป็นความบาป และไม่ประณีประนอมลดระดับมัน
2.อย่าเกลียดหรือตัดสินคนที่เป็น LGBT

.
.
.
- โอเคพี่ น้องอ่านจบแล้ว แล้วน้องจะเริ่มต้นทำอะไรได้บ้าง?
พี่ซันขอหนุนใจน้องๆ 2 ข้อนี้ครับ

1. ต้อนรับเพศที่ 3 เข้าโบสถ์ แล้วให้ “ความรัก” กับพวกเขาอย่างเต็มที่ แต่ก็ชัดเจนในจุดยืนที่ว่า “การรักร่วมเพศ = บาป”

2. เราควรปฏิบัติกับความบาปเพศที่ 3 อย่าง “เท่าเทียม” กับความบาปอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เพราะสุดท้ายทุกคนก็เป็นคนบาปและต้องการพระคุณของพระเจ้าเหมือนกัน