1. พระคัมภีร์ไม่ได้คาดหวังเกรด A
ณ จุดๆนี้มันคือสังคมแห่งการแข่งขัน ในขณะที่คนรอบข้างเราคาดหวังให้เราทำคะแนนได้สูงๆ แต่พี่บอกเลยว่าพระคัมภีร์ไม่เคยบอกว่าน้องต้องได้เกรด A พระเจ้าจึงจะพอพระทัย ไม่ว่าน้องจะได้เกรดอะไร พระเจ้ารักน้องเท่าเดิม
2. เปลี่ยนคำอธิษฐานเผื่อการสอบ เป็น การเรียนรู้
หัวใจหลักของการศึกษา ไม่ใช่น้องจบมาได้เกรดเท่าไหร่ แต่คือน้องเรียนรู้มากเท่าไหร่ต่างหาก หลายคนติดกับดักการศึกษา (Education Trap) จนทำให้จบมาเกรดอย่างหรู แต่ใช้ความรู้ไปใช้จริงไม่เป็นเลย ลองเปลี่ยนคำอธิษฐานเผื่อการสอบ เป็น อธิษฐานขอให้ได้ความรู้ไปรับใช้พระเจ้าดูนะ แล้วเมื่อไหร่ที่น้องเรียนเพื่อความรู้จริงๆ มันจะช่วยให้น้องเรียนอย่างมีความสุขและทำคะแนนได้ดีขึ้นด้วย
3. เตรียมตัวให้ดี
ซาโลมอนสนับสนุนให้คนขยัน และเปาโลไม่ชอบให้ใคร “งอมืองอเท้า” ดังนั้นเป็นเรื่องดีที่น้องจะขยันอ่านหนังสือและเตรียมตัวให้ดีที่สุด
4. เข้าสอบด้วยความวางใจ
หนึ่งในข้อพระคัมภีร์ที่พี่ชอบมากสำหรับหนุนใจการสอบคือ “ม้าก็เตรียมไว้พร้อมแล้วสำหรับวันสงคราม แต่ความมีชัยเป็นของพระเจ้า” (สภษ 21:31) น้องมีหน้าที่เตรียมม้าให้ดีที่สุด แล้วตระหนักเสมอว่าชัยชนะยังไงก็ต้องมาจากพระเจ้า จากนั้นก็เข้าสงครามสอบด้วยความวางใจได้เลย
5. จุดฟินควรเกิดขึ้นตอนที่อ่านหนังสือจบ ไม่ใช่สอบเสร็จ
ถ้าน้องตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อการเรียนรู้ ไม่ใช่เพื่อเกรด และพร้อมจะเข้าสอบด้วยความวางใจ ความฟินมันจะเกิด ณ วินาที ที่น้องอ่านหนังสือจบทันที เพราะจุดนั้นเท่ากับน้องบรรลุเป้าหมายการศึกษาที่พระเจ้ามอบให้แล้ว นั่นคือ “ความรู้ไปรับใช้พระเจ้า”