- คืองี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ท่านประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์แห่งอเมริกา จุดประเด็นร้อนให้บรรดาผู้นำโลกทั้งหลายนั่งไม่ติดเก้าอี้กันเลยทีเดียว

- เล่าสั้นๆ ก็คือ ทรัมป์ประกาศยอมรับให้ “เยรูซาเล็ม” เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล (ยอมรับอยู่คนเดียว) พร้อมเตรียมย้ายสถานทูตอเมริกาจาก เทลอาวีฟ (เมืองหลวงปัจจุบัน) ไปตั้งในเยรูซาเล็มเร็วๆ นี้

- หลังจากนั้น ผู้นำประเทศอื่นๆ ก็ออกมาด่าทรัมป์กันถ้วนหน้า (เช่น ปาเลสไตน์ จอร์แดน ตุรกี ฝรั่งเศส) พร้อมมีกลุ่มประท้วงเกิดขึ้นหลายแห่ง แต่แน่นอนว่ามี หนึ่งประเทศที่ชื่นชมการตัดสินใจของทรัมป์ นั่นคือ “อิสราเอล”

- การประกาศครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะเยรูซาเล็มถือเป็นดินแดนใจกลางความอ่อนไหว ของหลายๆ ศาสนา (ยิว คริสต์ อิสลาม) จึงอาจทำให้เกิดความเกลียดชัง ความรุนแรง หรือกระทั่งสงครามได้เลย

- ว่าแต่ คริสเตียนมองเรื่องนี้กันยังไงบ้าง?
.
.
.
- ถ้าแบ่งแบบง่ายๆ เราจะพบ 2 แนวคิดด้วยกัน

1. สนับสนุนให้ยึดเยรูซาเล็ม

- ชื่อทางวิชาการของคนกลุ่มนี้คือ “Evangelical Fundamentalist” ซึ่งเป็นพวกตีความพระคัมภีร์ตามตัวอักษรเป๊ะๆ

- คริสเตียนกลุ่มนี้ “ฟิน” อย่างยิ่ง ที่เห็นทรัมป์กำลังทำให้คำทำนายในพระคัมภีร์เป็นจริง เกี่ยวกับ “พระวิหารหลังที่ 3” (ดนล. 9:27, 12:11, มธ. 24:15, วว. 11) และเป็นการรวมชนชาติยิวให้กลับบ้านเกิดอย่างแท้ทรู ตามพระสัญญากับอับราฮัม (ปฐก. 17:8) บางคนถึงกับเริ่มปูเสื่อรอ “ยุคพันปี” กันแล้ว

- ทั้งหมดนี้ พวกเขามองว่าพระเยซูใกล้จะเสด็จกลับมาแล้วด้วย

- นักวิชาการอย่าง Dr. Diana Butler Bass ก็ทวีตอวยทรัมป์อย่างยิ่งใหญ่ ว่าเป็นผู้ที่จะเติมเต็มคำพยากรณ์ของพระคัมภีร์ #เบอร์นั้นเลย

- เราไปดูความคิดของอีกกลุ่มกันบ้างดีกว่า
.
.
.
=== 2. ไม่เห็นด้วยกับทรัมป์ ===

- มีคริสเตียนอีกเป็นจำนวนมาก ที่ไม่เห็นด้วยกับทรัมป์ (รวมถึงพี่ซันด้วยครับ)

- พวกเขามองว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะทำให้เกิดความรุนแรง เพิ่มความเกลียดชัง และเป็นการทำร้ายชาวปาเลสไตน์อย่างแท้จริง

- หน้าที่ของคริสเตียนควรจะเป็น การสร้างสันติ (มธ. 5:9) และแสวงหาความยุติธรรม (มคา. 6:8) ในพระธรรมอาโมส เราพบว่าการนมัสการในพระวิหารที่เยรูซาเล็มก็เป็น “ปัญหา” สำหรับพระเจ้าได้ ถ้าพวกเขาเพิกเฉยต่อความยุติธรรม (อมส. 5:24)

- นอกจากนี้ คนกลุ่มนี้ไม่มองว่าพระสัญญาของพระเจ้าเป็นของ “ชนชาติเดียว” หรือ “แผ่นดินเดียว” เท่านั้น เพราะเปาโลอธิบายว่ามันเป็นแผนการณ์ล้ำลึกของพระเจ้าอยู่แล้ว ที่จะรวมคนต่างชาติกับคนอิสราเอล (อฟ. 3:6-7) นั่นแปลว่า “ปาเลสไตน์” กับ “ยิว” ก็ต่างร่วมรับพระสัญญาเดียวกันนั่นเอง

- ไม่แปลกใจ ที่เราจะเห็นบรรดาผู้นำศาสนาอย่าง โป๊ป ผู้นำโบสถ์ในเยรูซาเล็ม นักวิชาการ Gary M. Burge ต่างออกมาเตือนทรัมป์ ว่าให้ “คิดดีๆ” ก่อนตัดสินใจ
.
.
.
- จะเห็นได้ว่ามีคริสเตียนทั้ง 2 ฝั่ง ที่คิดต่างกันอย่างสุดขั้วไปเลย

- ไม่ว่าน้องจะเชื่อฝั่งไหน ก็คงต้องติดตามข่าวสารกันต่อไปและอธิษฐานเผื่อสถานการณ์ในครั้งนี้กันด้วยนะครับ